สวนสุนนท์กุล [สวนไผ่,สวนผสม,เกษตรธรรมชาติ] http://sunbamboo.siam2web.com/

   Main webboard   »   สมุนไพรใกล้ตัว
 ย้อนกลับ  |    
Started by
Topic:   มะขามป้อม  (Read: 1303 times - Reply: 0 comments)   
A-neg (Admin)

Posts: 56 topics
Joined: 8/9/2553

มะขามป้อม
« Thread Started on 14/11/2553 21:14:00 IP : 124.122.26.15 »
 
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Phyllanthus  emblica  L.
อันดับ
ชื่อวงศ์ : EUPHORBIACEAE
ชื่อสามัญ
: Emblic Myrabolan, Malacca Tree, Indian Gooseberry, Amala Plant, Amalak Tree
ชื่ออื่น :  กันโตด (เขมร - กาญจนบุรี)  กำทวด (ราชบุรี)  มะขามป้อม (ทั่วไป)  มั่งลู่,
สันยาส่า (กะเหรี่ยง - แม่ฮ่องสอน)
ประเภทไม้
: ไม้ยืนต้น

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :  
         ต้น   ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก-กลาง  สูง 8-12 เมตร  ขนาดโตวัดรอบต้นไม่เกิน 80 เซนติเมตร  ลำต้นมักคดงอ  เปลือกนอกสีน้ำตาลอบเทา  ผิวเรียบหรือค่อนข้างเรียบ  เปลือกในสีชมพูสด รูปทรง (เรือนยอด)  แผ่กว้างรูปร่มหรือพุ่มโปร่งกรม
        ใบ    เป็นใบเดี่ยว  แต่มีลักษณะคล้ายใบประกอบคล้ายใบมะขาม  รูปขอบขนานติดเรียงสลับ  ขนาด 0.25-0.5x 0.8-12 เซนติเมตร  สีเขียวอ่อนเรียงชิดกัน  ใบสั้นมาก  เส้นแขนงใบไม่ชัดเจน   
         ดอก   ขนาดเล็กแยกเพศ  แต่อยู่บนกิ่งหรือต้นเดียวกัน  ออกตามง่ามใบ  3.-5  ดอกแน่น  ตามปลายกิ่ง  กลีบเลี้ยง  6  กลีบ  ไม่มีกลิ่นดอก สีขาวหรือขาวนวล  กลิ่น  มีกลิ่นหอมคล้ายผิวมะนาวออกดอก   ช่วงเดือนมกราคม - เมษายน
        ผล   ทรงกลมมีเนื้อหนา 1.2-2 เซนติเมตร  ผลอ่อนมีสีเขียวอ่อน  ผลแก่มีเขียวอ่อนค่อนข้างใส  มีเส้นริ้วๆ ตามยาว  สังเกตได้  6  เส้น  เนื้อผลรับประทานได้มีรสฝาดเปรี้ยว  ขมและอบหวาน  เปลือกหุ้มเมล็ดแข็งมี  6  เส้น  เมล็ดมี  6  เมล็ด ผลแก่   ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม
แหล่งที่พบ : ขึ้นประปรายเป็นหมู่ๆ  ตามป่าราบ  ป่าเบญจพรรณแล้ง  และป่าแดงทั่วๆ  ไป
ประโยชน์และความสำคัญ  :  ราก  ต้มน้ำกินเป็นยาลดไข้  เป็นยาเย็น  ฟอกเลือด  และทำให้อาเจียนถ้ากลั่นรากจะได้สารที่มีคุณสมบัติเป็นยาฝาด สมานที่ดีกว่าสีเสียด  ตำพอกแก้พิษสัตว์กัดต่อย ต้น/เปลือก  เป็นยาฝาดสมาน  ใบ  น้ำต้มใบใช้อาบลดไข้  ดอก  มีกลิ่นหอมคล้ายผิวมะนาว  ใช้เข้าเครื่องยาเป็นยากเย็นและยาระบาย  ผล  ใช้ได้ทั้งแผลสดและผลแห้ง  มีฤทธิ์กัดน้ำลายเป็นยาเย็น  ยาฝาดสมานลดไข้  ขับปัสสาวะ  บำรุงหัวใจ  ฟอกเลือด  น้ำคั้นผลสดมีวิตามินซีสูงกว่าน้ำส้มคั้นประมาณ  20  เท่า  ในปริมาณเท่ากัน  ใช้แก้โรคลักปิดลักเปิด  เนื้อผลแห้ง  ที่เรียกว่า Emblic  myrabolan  ใช้เป็นยาฝาดสมาน  เพราะมี  tannin  แก้โรคริดสีดวงทวาร  แก้บิด  ท้องเสีย  ใช้ควบกับธาตุเหล็กแก้โรคดีซ่าน  และช่วยย่อย  ถ้าหมักผลจะได้แอลกอฮอล์  กินแก้อาหารไม่ย่อย  แก้ไอ  และแก้โรคดีซ่าน  ยางจากผล  รสเปรี้ยวฝาดขม  หยอดตาแก้ตาอักเสบ  รับประทานช่วยย่อยอาหาร  ขับปัสสาวะ
ด้านการทำสีย้อม  ชาวเหนือนิยมใช้เปลือกมะขามป้อมย้อม ผ้าไหม  ผ้าขนสัตว์ แม้กระทั่งย่อมสีผม  ใช้สีน้ำตาล
ส่วนที่รับประทาน : ผลทั้งหมด ยกเว้นเมล็ด มีรสเปรี้ยวอมฝาด นิยมรับประทานกับน้ำพริก หรือนำไปดอง

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share

   Main webboard   »   สมุนไพรใกล้ตัว
 ย้อนกลับ  |    

 

คนโบราณและนักโภชนาการมักกล่าวว่า อาหารเป็นยาที่วิเศษที่สุด เพราะเป็นแหล่งรวมของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแต่ใช่ว่าต้องเป็น อาหารที่มีราคาแพงอย่างเป๋าฮื้อ หูฉลาม รังนก หรือของหายากอย่างดีหมีเท่านั้น ถึงจะให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายได้ เพราะจากการศึกษาแล้วพบว่าอาหารที่เราหาได้ตามท้องตลาดในชีวิตประจำวันก็มี ประโยชน์ในตัวไม่ใช่น้อย

ที่สำคัญอาหารเหล่านี้ยังช่วยล้างพิษให้แก่ อวัยวะต่างๆในร่างกาย เช่น ตับ ลำไส้ ไต ผิวหนัง ช่วยป้องกันการจับตัวของสารพิษ รวมถึงช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งสารพิษต่างๆที่สะสมอยู่ในร่างกายอาจมาจากควันพิษในอากาศ สารเจือปนในอาหาร เช่น สีผสมอาหาร สารกันเสีย ยาฆ่าแมลง ปรุงรส เป็นต้น

คราวนี้ลองมาดูกันว่าอาหารชนิดใดสามารถช่วยล้างพิษให้คุณได้บ้าง

  1. สาหร่าย พืชสีเขียวในทะเลที่หลายคนมองข้ามคุณประโยชน์ แต่จากการศึกษาของ Mcgill University ที่ Montreal แสดงผลว่าสาหร่ายสามารถจับของเสียจากรังสีที่สะสมในร่างกาย



ใน ปัจจุบันเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงรังสีต่างๆจากคลื่นวิทยุ คลื่นโทรศัพท์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคลื่นไมโครเวฟทั้งหลายได้ ซึ่งพลังงานความร้อนเหล่านี้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ก่อให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งสาหร่ายจะช่วยดูดซึมคลื่นรังสีเหล่านั้น และสามารถจับกับพวกโลหะหนักได้ด้วย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยโปรตีนและเกลือแร่ในปริมาณมาก


  2. หัวหอม ประกอบไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งหลายชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยทำความสะอาดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LD ซึ่งไม่ดีเพราะเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานดีขึ้น ช่วยรักษาโรคหอบ โรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และที่สำคัญคือช่วยรักษาโรคเบาหวานโดยช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่


  3. มะนาว เป็นสุดยอดอาหารที่ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูง น้ำมะนาวสดเมื่อนำมาผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอนจะช่วยล้างพิษ และทำให้เลือดสะอาดขึ้น แต่ถ้านำน้ำมะนาวสดผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง ก็จะเป็นอาหารที่ช่วยล้างพิษในลำไส้และป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย



  4. เมล็ดแฟลกซ์ ประกอบไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็น อย่างโอเมกา 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยบำรุงความจำ และมีผลดีต่อหัวใจเพราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังมีสารอื่นที่ช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันร่างการแข็งแรงขึ้น



  5. กระเจี๊ยบ น้ำกระเจี๊ยบมีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดแบคทีเรียและไวรัสออกจากระบบทางเดิน ปัสสาวะ ซึ่งมักก่อให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้มีอาการปัสสาวะไม่ออกหรือมีเลือดปน หรือมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งสารในกระเจี๊ยบสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเหล่านั้นได้



  6. ทับทิม ตำราแพทย์แผนโบราณของชาวเอเชียกล่าวไว้ว่า การดื่มน้ำทับทิมสามารถรักษาอาการอักเสบและลดความปวดได้ เนื่องจากในผลทับทิมมีสารแอสไพรินซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับแอสไพรินในยา แก้ปวด ช่วยล้างพิษ ลดการติดเชื้อของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย และลดอาการอักเสบ



โดย เฉพาะผู้ที่มีอาการไขข้ออักเสบ ปวดบวม ช้ำ แนะนำให้กินทับทิม เพราะช่วยลดอาการปวดลงได้ ขณะเดียวกันยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น


  7. พืชตระกูลถั่ว (เช่นถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และถั่วขาว) จากการศึกษาพบว่าผู้ที่กินถั่วเป็นประจำมีระดับคอเลสเตอรอลน้อยกว่าผู้ที่ ไม่ได้กิน และลดอัตราความเสียงต่อการเกิดโรคหัวใจด้วยพืชตระกูลถั่วนี้ประกอบด้วยไฟ เบอร์สูง ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ทำความสะอาดลำไส้ ลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ อีกทั้งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย


  8. ขึ้นฉ่าย ถือว่าเป็นสุดยอดอาหารในการทำความสะอาดเลือดและช่วยลดความดันโลหิต สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรกินขึ้นฉ่ายเป็นประจำ หรือถ้าจะให้ดีควรดื่มน้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายสดในตอนเช้า เพื่อช่วยควบคุมระดับแรงดันเลือดให้คงที่ ในขึ้นฉ่ายยังประกอบไปด้วยสารต้านการเกิดมะเร็ง และสารที่ช่วยขับของเสียจากบุหรี่ในคนที่สูบบุหรี่หรือผู้ที่ได้รับควัน บุหรี่ด้วย



  9. แครอท เต็มไปด้วยสารอัลฟาและเบตาแคโรทีน ( Alpha and Beta-carotene ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิตามินเอ และถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมช่วยปกป้องร่างกายจากสารพิษใน สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะช่วยระบบทางเดินประสาท สายตา ผิวหนัง ที่ต้องสัมผัสแสงแดเป็นประจำ และจากการวิจัยพบว่าสารในแครอตช่วยลดการเกิดมะเร็ง และช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจและหัวใจแข็งแรงขึ้น



  10. มะเขือพวง คนไทยนิยมใส่มะเขือพวงในอาหารประเภท ผัดเผ็ด แกงป่า แกงกะทิ และน้ำพริก สมัยก่อนแกงกะทิเช่นแกงไก่ใส่มะเขือพวงเต็มไปด้วย ใส่ไก่น้อยเน้นการกินมะเขือเป็นหลักแต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้าม แกงไก่มักใส่ไก่มากกว่ามะเขือ และคนก็เลือกกินแต่ไก่ จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนในปัจจุบันมีรูปร่างอ้วนกว่าคนสมัยก่อน

มะเขือ พวงเป็นผักที่เต็มไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งสามารถช่วยดูดซึมไขมันในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยจับไขมันอิ่มตัว (ไขมันอันตราย) และขับออกจากร่างกายโดยระบบขับถ่าย ทั้งยังมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยกำจัดของเสียออกจากระบบทางเดินอาหารได้เร็วขึ้นและลดการสะสมของเสีย


  11. ส้มโอ หรือเกรปฟรุต เพราะเป็นผลไม้รสชาติดีจึงได้รับความนิยมในอาหารมื้อเช้าของชาวตะวันตก สารเพกตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ประเภทหนึ่งในเกรปฟรุต สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ก่อนที่จะจับตัวเป็นก้อนและขวางทางเดินในหลอดเลือด นอกจากนี้เพกตินยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้โลหะหนักเหล่านี้ทำอันตรายต่อ ร่างกาย ส่วนเกรปฟรุตช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งกระเพราะอาหารและมะเร็งตับอ่อน สารต้านอนุมูลอิสระในเกรปฟรุตช่วยปกป้องสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย



  12. กระเทียม จากหลายการศึกษาให้ผลตรงกันถึงคุณสมบัติของกระเทียมในการทำความสะอาดร่างกาย นั่นคือ การกินกระเทียมเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับและฆ่าพยาธิในทางเดินอาหาร และฆ่าเชื้อไวรัส โดยเฉพาะทำความสะอาดเลือดและระบบลำไส้ ทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นและลดแรงดันโลหิต นอกจากนี้ยังต่อต้านการเกิดมะเร็งและทำให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น แต่ก็ควรระวังเรื่องการกินกระเทียมมากเกินไป ซึ่งก่อให้เกิดลมหายใจที่มีกลิ่นกระเทียมไปด้วย



  13. บลูเบอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มีค่าแอนติออกซิแดนต์สูงมากชนิดหนึ่งและถือเป็นหนึ่งในสุดยอด อาหารรักษาโรค เนื่องจากในบลูเบอร์รี่มีสารแอสไพรินตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดการระคายเคือง สารที่มีในบลูเบอร์รี่สามารถเข้าไปขัดขวางแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ



  14. กะหล่ำ เต็มไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งและอนุมูลอิสระ ( Antioxidant ) และช่วยตับขับฮอร์โมนที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นฮอร์โมนความเครียดที่มีผลเสียต่อร่างกาย ทั้งยังช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร รักษาและปกป้องกระเพราะอาหารจากแบคทีเรียและไวรัสต่างๆ พืชตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลี และกะหล่ำปม ผักเหล่านี้ช่วยทำความสะอาดร่างกายและช่วยกำจัดของเสียจากสิ่งแวดล้อม เช่น ของเสียจากควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสีย และช่วยให้ตับผลิตเอนไซม์ออกมาให้เพียงพอในการกำจัดของเสีย



  15. บีทรูต ผักสีแดงที่นิยมใส่ในสลัดนี้นับเป็นผักมหัศจรรย์ซึ่งเประกอบไปด้วยไฟโรเคมี คอล ( Phytochemical ) วิตามินและเกลือแร่หลายชนิด ซึ่งทำให้บีตรูตมีคุณสมบัติต่อต้านชื้อโรค ทำความสะอาดเลือด ตับและระบบน้ำเหลือง อีกทั้งมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายรับออกซิเจนได้มากขึ้น จึงช่วยกำจัดของเสียได้ง่ายและเร็วขึ้น ซึ่งจากกการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่าบีตรูตช่วยปรับระดับกรด-ด่างในเลือด ให้สมดุลด้วย


  16. อะโวคาโด อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ปัจจุบันเราก็สามารถหาซื้ออะโวคาโดได้จากตลาดทั่วไป ในอะโวคาโดมีสารกลูตาไทโอน(Glutathione ) ที่สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ทั้งช่วยจับสารพิษที่เป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งกว่า 30 ชนิด และขณะเดียวกันก็ช่วยให้ตับกำจัดของเสียจำพวกสารเคมีและโลหะหนัก ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ( University of Michigan ) พบว่าผู้สูงอายุซึ่งกินอาหารที่มีสารกลูตาไทโอนสูงจะมีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ ได้กิน และมีอัตราการเกิดโรคหัวใจน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์



  17. ตำลึง ผักใบเขียวที่ขึ้นข้างรั้วหาง่าย และราคาไม่แพงนี้ ในสมัยก่อนเรามักนำมาทำแกงจืดตำลึงโดยใสเนื้อสัตว์น้อยๆ แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าแกงจืดตำลึงจะมีตำลึงอยู่ไม่กี่ใบ และมีหมูสับเต็มไปหมด ซึ่งตำลึงมีคุณสมบัติ ช่วยผลิตน้ำดีที่จะทำให้ลำไส้ขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีขึ้น นอกจากนี้สารที่มีอยู่ในตำลึงยังช่วยให้ตับสลายไขมันในร่างกายด้วย


  18. แอปเปิ้ล ประกอบไปด้วยเพกตินสูง เพกตินเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยจับคอเลสเตอรอลและโลหะหนักในร่างกายที่ ปะปนมากับอาหาร เช่น ปรอท ตะกั่ว ซึ่งทำลายเซลล์สมอง นี่คือเหตุผลที่เราควรจะกินแอปเบิลเพื่อล้างสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส จากการศึกษาทดลองยังพบว่าแอปเปิลช่วยขับสารเคมีที่ปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็ก และทำให้เกิดไมเกรนในผู้ใหญ่ได้



19. อัลมอนด์ เป็นถั่วที่มีใยอาหารสูง มีแคลเซียมและโปรตีนที่ดีต่อร่างกาย แม้จะมีไขมัน แต่ก็เป็นไขมันที่ดีและจำเป็นต่อร่างกายในระหว่างที่เราทำการล้างพิษจึงควร กินอัลมอนด์ นอกจากนี้อัลมอนด์ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็จะเกิดอาการไฮเปอร์ไกลซีเมีย ( Hyperglycemia ) ทำให้รู้สึกหิวน้ำมากกว่าปกติ หายใจไม่ออก ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และหากน้ำตาลในเลือดต่ำที่เรียกว่า ไฮโปไกลซีเมีย( Hypoglycemia )จะทำให้เกิดอาการหน้ามืด เป็นลม ใจสั่น ไม่มีแรง คิดอะไรไม่ออก


  20. กล้วย มีคุณสมบัติในการบำรุงและสร้างความแข็งแรงแก่กระเพาะอาหาร ในขณะเดียวกันก็ให้เกลือแร่ที่จำเป็นแก่ร่างกาย เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกายโดยช่วยขับของเหลว หรือสารพิษส่วนเกิออกจากร่างกายโดยช่วยขับของเปลว หรือสารพิษส่วนเกินออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การกินกล้วยเป็นประจำยังช่วยป้องกันท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติอีกด้วย



นี่คือความสุดยอดของบ้านเมืองเรา.....ซึ่งบ้านเมืองอื่น..แอบอิจฉา

 

 

เวบไชด์น่าสนใจ เกี่ยวกับพลังงาดทดแทน

www.are101.org  ความ รู้เกี่ยวกับพลังงานลม กังหันลม พลังงานแสงอาทิตย์ ทั้ง โซลาร์เซลล์ โซลาร์เทอร์มอล แผ่นสะท้อนความร้อน และการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ทุกรูปแบบ เชื้อเพลิงทดแทนต่างๆ Fuel cell, พลังน้ำ, การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ, การประหยัดพลังงาน, บ้านประหยัดพลังงาน, แบตเตอร์รี่ ฯลฯ

 

บทความน่าอ่าน

การผลิตพลังงานไฮโดรเจน อีกวิธีการหนึ่ง(แผงโซลาร์เซล) ข้อมูลจาก:http://www.oknation.net
เทคโนโลยีการเก็บไฮโดรเจน ข้อมูลจาก:http://thailandindustry.com

Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 147,558 Today: 51 PageView/Month: 706

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...